What is RFID | Benefits of RFID

    

ในปัจจุบันนี้หลายๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าเทคโนโลยี RFID ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอยู่ไม่น้อย วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก RFID กันว่าคืออะไร ทำงานอย่างไร และมีประโยชน์มากน้อยเพียงใดกับเราบ้าง

What is RFID ?

RFID ย่อมาจาก Radio Frequency Identification คือการใช้คลื่นความถี่วิทยุแบบไร้สายเพื่อถ่ายโอนข้อมูล โดยการติด RFID Tag ที่สินค้าหรือทรัพย์สินเพื่อระบุและติดตามสินค้าคงคลังและทรัพย์สินแบบอัตโนมัติโดยไม่ซ้ำกัน RFID เป็นเทคโนโลยี ที่สามารถอ่าน Tag ได้หลายๆ ชิ้นโดยไม่ต้องอยู่ในระยะสายตาเหมือนการอ่าน barcode (ขึ้นอยู่กับประเภทของ RFID tag และ RFID reader ด้วย เพราะมีช่วงการอ่านระหว่างเซนติเมตรถึงมากกว่า 20 เมตร)

คลื่นความถี่วิทยุในระบบ RFID นั้นที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 3 คลื่นความถี่ คือ Low frequency (LF) 125-134 kHz, High frequency (HF) 13.56 kHz, Ultra High frequency (UHF) 856-960 MHz

ในระบบ RFID จะมีองค์ประกอบหลักๆ ด้วยกัน 2 ส่วน คือ Hardware (RFID tag, RFID reader) และ Software (ระบบที่ใช้ประมวลผล) ส่วนการทำงานของระบบนั้นก็คือ ติด RFID Tag ที่ตัวสินค้าหรือทรัพย์สิน ถ้าเราต้องการติดตามหรือตรวจนับสินค้าหรือตัวทรัพย์สินก็เพียงนำ RFID reader มาอ่านที่ RFID tag เท่านั้น ก็จะสามารถค้นหาสินค้าหรือทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็วได้ในทันที และเรายังสามารถทราบถึงข้อมูลและจำนวนคงเหลือของสินค้าหรือทรัพย์สินเหล่านั้นได้อย่างถูกต้อง

Benefits of RFID ?

จากบทความข้างต้นเราได้รู้แล้วว่าระบบ RFID นั้น คืออะไร และทำงานอย่างไร ดังนั้นเรามาดูเบื้องต้นว่าประโยชน์ที่เราจะได้รับจากระบบ RFID มีอะไรบ้าง

1. ความเร็วในการในอ่านข้อมูลจาก RFID Tag นั้นเร็วกว่าแถบ Barcode หมายคามว่าเราจะทำงานได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลาในการทำงานลง

2. RFID Tag สามารถเขียนข้อมูลซ้ำได้ จึงสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้ช่วยลดต้นทุนลง

3. ความละเอียดและสามารถบรรจุข้อมูลได้มาก หมายความว่าเราสามารถแยกแยะความแตกต่างของสินค้าหรือทรัพย์สินได้ถึงแม้ว่าสินค้านั้นจะเป็นชนิดเดียวก็ตาม

4. ระบบ RFID นั้นมีความปลอดภัยสูง ยากต่อการปลอมแปลง จึงทำให้เราเชื่อมั่นว่าข้อมูลสินค้าหรือทรัพย์สินของเรานั้นปลอดภัยแน่นอน

จากบทความเทคโนโลยีระบบ RFID ของเรา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการเพื่อเป็นการตัดสินใจเลือกใช้ระบบ RFID กับธุรกิจของท่านไม่ว่าจะเป็น คลังสินค้าในอุตสาหกรรม, ร้านค้าปลีก, สถานศึกษา, บริษัทเอกชน เป็นต้น

Visitors: 435,208